**เกณฑ์ตัดสิน**: [ค่าซ่อม] > 30% ของแอร์ใหม่ → ควรเปลี่ยน [ค่าไฟ] > 1,000 บาท/เดือน → เปลี่ยนอินเวอร์เตอร์ **โปรโมชั่นแนะนำ**: Trade-in รับส่วนลด 15%
**เกณฑ์ตัดสิน**: [ค่าซ่อม] > 30% ของแอร์ใหม่ → ควรเปลี่ยน [ค่าไฟ] > 1,000 บาท/เดือน → เปลี่ยนอินเวอร์เตอร์ **โปรโมชั่นแนะนำ**: Trade-in รับส่วนลด 15%
**5 ข้อต้องทำหลังติดตั้ง**: 1. ตรวจสอบท่อสารทำความเย็นไม่ถูกบีบรัด 2. ทดสอบระบบระบายน้ำ 3. วัดค่ากระแสไฟขณะทำงาน 4. ตรวจระดับเสียง (ไม่เกิน 45 dB) 5. รับใบรับประกันการติดตั้ง
**สาเหตุ**: – แอร์ทำงานหนักเพราะสารทำความเย็นรั่ว – คอยล์สกปรกทำให้ระบายความร้อนไม่ดี – แอร์เก่ามากกว่า 8 ปี (ประสิทธิภาพต่ำกว่า 50%) **ข้อแนะนำ**: ✅ บริการล้างแอร์อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง ✅ ตรวจวัดค่ากระแสไฟด้วย Clamp Meter
**สาเหตุและความเสี่ยง**: – ท่อน้ำทิ้งอุดตัน → เสี่ยงน้ำรั่วซึมทำลายเพดาน – ดรายแพนแตก → ซ่อมหากินได้ **วิธีแก้**: 📞 เรียกช่างตรวจสอบท่อน้ำทิ้งและระดับการวางเครื่อง
ทำไมแอร์จึงมีกลิ่นเหม็นอับ? 3 สาเหตุหลักและวิธีแก้ไข: สาเหตุ วิธีแก้ไข ระดับความรุนแรง เชื้อราในคอยล์เย็น ล้างด้วยน้ำยาเอนไซม์ ⚠️⚠️⚠️ (ต้องเรียกช่าง) ท่อน้ำทิ้งอุดตัน เป่าท่อด้วยลมแรงดันสูง ⚠️⚠️ ฟิลเตอร์สกปรกเกินไป ล้างฟิลเตอร์ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ⚠️ วิธีป้องกัน: เปิดโหมด Dry 30 นาทีก่อนปิดเครื่อง ล้างฟิลเตอร์ทุก 2 สัปดาห์ ใช้บริการทำความสะอาดลึกทุก 4 เดือน
**หลักการออกแบบ**: – ต้องมีระยะห่างจากกำแพง ≥ 50 ซม. – หลังคาคลุมต้องสูงเหนือเครื่อง ≥ 1.5 เมตร – หลีกเลี่ยงจุดน้ำหยดจากข้างบน
***สาเหตุหลัก 5 ประการ: น้ำยาหมดหรือรั่ว (พบใน 60% ของเคส) คอยล์ร้อนสกปรก จากใบไม้หรือฝุ่นหนา แผงวงจรควบคุมเสีย จากไฟกระชาก คอมเพรสเซอร์ไหม้ ในเครื่องอายุเกิน 7 ปี ท่อส่งน้ำยาอุดตัน **วิธีแก้ไขเบื้องต้น**: 1. ล้างฟิลเตอร์แอร์ทุก 2 สัปดาห์ 2. ตรวจสอบว่าคอยล์ภายนอกไม่มีสิ่งกีดขวาง 3. **ควรเรียกช่างตรวจเช็คทันทีหากไม่ดีขึ้น**